วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

สุนัขพันธ์มอลทีส




"มอลทีส"เป็นสุนัขที่รู้จักและนิยมเลี้ยงมานานหลายพันปีแล้ว สันนิษฐานได้ว่าชื่อ"มอลทีส" น่าจะมาจากชื่อประเทศมอลต้า (เป็นเกาะในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) แต่ชาวยุโรปโบราณกลับมีความเชื่อว่าสุนัขพันธ์นี้มีถิ่นกำเนิดทางฝั่งทะเลของหมู่เกาะชิชิลี ของประเทศอิตาลี มีการพบรูปปั้นมอลทีสในหลุมฝังศพของชาวอียิปต์เมื่อก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตามจากอดีตจนถึงทุกวันนี้สุนัขสายพันธนี้มีการพัฒนาสายพันธ์์และครองใจผู้ที่ชอบเลี้ยงสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กและขนยาวด้วย ที่เป็นสุนัขที่มีสีขาวเพียงสีเดียว (มีสีขาวเหมือนเส้นไหม) มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีสังเกตได้ว่าขณะที่อยู่ในบ้านจะเห็นเขานั้งอยู่ข้างเราอย่างสุภาพเรียบร้อย เป็นพันธ์ที่ช่วยเฝ้าบ้านได้ดีและจับหนูเก่งมาก เส้นขนจะพลิ้วอย่างมีชีวิตชีวาน่าเอ็นดู แฝงไปด้วยนิสัยที่ขี้เล่นและซุกซน ทำให้ไม่น่าเบื่อหน่าย ขนของ "มอลทีส" นอกจากจะมีความสลวยเหมือนผืนผ้าไหมแล้วยังสัมผัสได้ถึงความเย็นและที่สำคัญเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว
"มอลทีส" เป็นสุนัขพันธ์เล็กที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในชนชั้นระดับผู้นำกรีกและโรมัน โดยเฉพาะในยุคของอริสโตเติ้ล ปัจจุบันยังเป็นที่นิยมเลี้ยงทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐ อเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ ("มอลทีส" ถูกนำมายังอังกฤษในราว55ปีก่อนคริสตกาลช่วงที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดคือ สมัยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 สำหรับที่สหรัฐอเมริกานิยมเลี้ยงสุนัขพันธ์นี้มานานไม่ตำ่กว่า300ปี) สำหรับในเมืองไทยแล้ว "มอลทีส" เป็นที่นิยมเลี้ยงในหมู่คนชั้นกลางเนื่องจากเป็นพันธ์ที่มีราคาค่อนข้างแพง ลูกสุนัขอายุ 2 เดือน ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000 บาทต่อตัว ยิ่งถ้าเป็นลูกที่เกิดจากแม่พันธ์ที่มีประวัติเป็นแชมป์จากประกวดจะซื้อ-ขายอย่างตำ่ 50,000 บาท คนที่จะเลี้ยงสุนัขสายพันธ์นี้จะต้องมีความพร้อมและมีเวลาในการดูแลให้เขาสวยงาม ถึงแม้จะเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว จะต้องอาบนำ้อย่างน้อย 7 วันครั้ง จะต้องทำความสะอาดในส่วนของง่ามเท้า หมั่นตัดเล็บอยู่เสมอ หลังจากการอาบนำ้ทุกครั้งจะต้องไดร์ขนสุนัขให้แห้งสนิท ถ้าขืนปล่อยให้ขนของเขายังมีความชื้นอยู่ก็จะทำให้เขาเป็นโรคผิวหนังได้ง่าย

โดยปกติแล้ว "มอลทีส" จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นฯ คือจะให้ลูกปีละ2ครอก แต่ในครอกหนึ่งจะให้ลูกเพียง 2-3 ตัวเท่านั้น อาหารที่ใช้เลี้ยงควรจะใช้อาหารเกรดพรีเมี่ยม สำหรับสุนัขโตให้อาหารวันละ 2 มื้อ ถ้าเป็นลูกสุนัขหลังจากหย่านมจากแม่ (ประมาณ 2 เดือน) ให้กินอาหารเม็ดที่แช่นำ้วันละ 4 มื้อ เมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ 3 เดือนจะเปลี่ยนเป็นอาหารแข็ง เมื่ออายุได้ 4 เดือนให้อาหารเม็ด 3 มื้อ เมื่ออายุได้ 7 เดือนขึ้นไปก็เหลือเพียง 2 มื้อ


พยาธิหัวใจ (Heart worm)


พยาธิหัวใจ (Heart worm) เกิดจากตัวพยาธิที่มีชื่อว่า Diroflaria immitis พยาธิชนิดนี้จะมีความยาวเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 1 ฟุต ตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดดำที่หัวใจห้องขวาซึ่งเป็นหลอดเลือดที่จะนำเลือดจากหัวใจห้องขวาไปฟอกที่ปอด จะทำให้เกิดการอุดตันอยู่ภายใน หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปฟอกได้เต็มที่ ทำให้เกิดภาวะหัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติ มีการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจห้องขวามากขึ้น หัวใจด้านขวามีการโตขึ้นมากกว่าปกติ สุนัขจะแสดงอาการเหนื่อยง่าย เบื่ออาหารไอแห้งๆและบ่อย หายใจลำบากเนื่องจากภาวะหัวใจโต หัวใจดันหลอดลมให้ตีบแคบลงเกิดภาวะมีน้ำในช่องอก มีอาการท้องมาน บวมน้ำ ถ้าอาการรุนแรงมากๆสุนัขสามารถที่จะเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ทันที



รับมือกับคุณแม่มือใหม่



เจ้าของหลายท่านอาจจะมีปัญหากับการเลี้ยงสุนัขตัวเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดตั้งท้องขึ้นมาครั้งแรก คงจะทั้งตื่นเต้นละทำอะไรกันไม่ถูกเลยใช่ไหมคะวันนี้หมอมีเทคนิคง่ายๆกับการรับมือคุณแม่ตัวดีนี้กันคะ

สุนัขจะตั้งท้องประมาณ 2 เดือน(เฉลี่ย 60-72 วัน) สุนัขจะกินอาหารเยอะมากขึ้น มีการขยายของช่องท้อง เต้านมเริ่มขยายตัว เจ้าของดูแลเค้าง่ายๆ เลี้ยงตามปกติเลยคะ ให้กินอาหารตามปกติที่เคยให้ (อาจจะเน้นประเภทโปรตีนมากขึ้นอีกนิด) ในช่วงแรกไม่ควรให้เค้ากินเยอะนะคะ เพราะถ้าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากเกินไป หรือบำรุงจนเจ้าตัวเล็กในท้องตัวใหญ่ไปอาจจะมีปัญหาตอนคลอดได้ หมอแนะนำให้เพิ่มมื้ออาหารดีกว่าคะ นอกจากนั้นควรจะพาไปพบสัตวแพทย์ ให้คุณหมอเช็คการดูแลสุขภาพ ประวัติการทำวัคซีน ถ่ายพยาธิให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการติดต่อโรคต่างๆไปยังเจ้าตัวเล็กในท้อง เจ้าของอาจจะเริ่มเสริมแคลเซียมให้กับคุณแม่ได้โดยการให้นม (ถ้าตัวไหนไม่เคยกินอาจจะมีอาการถ่ายเหลวได้ในระยะ 2-3 วันแรก) หรือเป็นแคลเซียมอัดเม็ดที่มีขายกันทั่วไปก็ได้คะ และควรจะให้กินต่อเนื่องจนเริ่มงดให้ในช่วงก่อนคลอด (ประมาณ 7-10 วันก่อนคลอด)

หลังจากตั้งท้องไปประมาณ 45-50 วัน เจ้าของควรจะพาคุณแม่มือใหม่ไปฝากท้องกับคุณหมอนะคะ เพื่ออะไร เจ้าของอาจจะสงสัยใช่ไหมคะ คุณหมอจะทำการตรวจสภาพร่างกายโดยทั่วไปก่อนว่าสุนัขมีความสมบูรณ์ไหม และคุณหมอจะทำการ x-ray เพื่อตรวจสภาพการตั้งท้องว่าเค้าตั้งท้องจริงใช่หรือไม่ เพราะภาวการณ์ตั้งท้องเทียมสุนัขจะแสดงอาการเหมือนกับการตั้งท้องจริงทุกอย่าง นอกจากนี้การ x-ray ยังสามารถบอกจำนวนเจ้าตัวเล็กในท้อง และดูช่องของกระดูกเชิงกรานของแม่เทียบกับขนาดหัวของเจ้าตัวเล็กเพื่อคาดเดาว่าตัวแม่เค้าสามารถที่จะคลอดเองได้หรือไม่อีกด้วยนะคะ เห็นไหมคะ ง่ายๆเองที่จะดูแลคุณแม่มือใหม่ให้ผลิตเจ้าตัวเล็กออกมาให้เราได้ตื่นเต้นกันคะ


เรื่องน้ำตาของมอลทีส


เรื่องน้ำตาเนี่ยเป็นเรื่องของพันธุกรรมนะครับ ถ้าสายเค้ามี เด็กๆ ก็จะมีไปด้วยน่ะครับ ทุกวันเค้าจะมีน้ำตาดังนั้น คราบน้ำตาลอ่อนๆ หลังจากที่ทำความสะอาดแล้วก็จะยังมีอยู่ครับ ไม่หายแต่เคลือบภายนอกให้ดูจางลงได้ด้วยแป้งเคลือบหนวด แต่พอวันรุ่งขึ้นก็จะมีอีกเช่นเดิม ซึ่งสุนัขที่จะประกวดเค้าจะใช้ยาฟอกขาวตรงบริเวณหนวดครับ แต่ถ้าเราไม่ได้ประกวดก็อย่าไปทำเลยครับ เดี๋ยวปะเหมาะเคราะห์ร้ายจะกลายเป็นสวยแต่ตาบอดไปล่ะแย่เลย
เรามาเริ่มกรรมวิธีดูแลเด็กๆ กันเลยดีไหมครับ


แย่แล้ว...ไม่อยากได้ลูก ทำยังไงดี


สำหรับเจ้าของที่เลี้ยงสุนัขเพศเมียมักจะเกิดปัญหาปวดหัว แก้ไม่ตกเมื่อสุดสวยประจำบ้านเริ่มเป็นสาว หรือเริ่มเป็นสัดนั่นเอง โดยปกติแล้วในบ้านเราสุนัขเพศเมียจะเริ่มเป็นสัดครั้งแรกได้เมื่ออายุ 6-8 เดือนซึ่งจะถือว่าเร็วกว่าเมื่อเทียบกับต่างประเทศเนื่องจากสภาพอากาศ สุนัขจะเป็นสัดได้ 1-2 ครั้งต่อปี การเป็นสัดของสุนัขนั้นอาการก็จะเหมือนกับผู้หญิงจะมีเลือดซึมออกจากอวัยวะเพศ หรือที่เราเรียกกันว่าแระจำเดือนนั่นแหละคะ

อวัยวะเพศบวมแดง มีอาการหงุดหงิด กระวนกระวายได้ สุนัขบางตัวอาจจะมีการปวดเกร็งท้องได้ ในช่วงที่มีประจำเดือน(3-4 วัน) ตัวเมียจะไม่ยอมให้ตัวผู้ทำการผสม แต่พอหมดจะเริ่มหมดจะยอมให้ทำการผสมได้ ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าของที่ไม่อยากให้สุดสวยตั้งท้องก็ต้องคอยมาระวังกัน ซึ่งค่อนข้างจะสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของใช่ไหมคะ ไม่ต้องกังวลคะ หมอมีวิธีการง่ายๆที่จะรับมือกับสถานการณ์นี้มาฝากคะ
วิธีการแรกง่ายๆคะ จับแยกออกจากตัวผู้เลยในกรณีที่บ้านเลี้ยงตัวผู้ด้วยนะคะ หรือจับขังกรง(ใจแข็งนิดนึงนะคะ) เพื่อป้องกันการออกไปนอกบ้าน หรือในช่วงแรกที่มีประจำเดือนนั้นเราอาจจะใส่ผ้าอนามัยให้เค้าได้คะ แต่อาจจะยุ่งยากไปนิด หรือจะลองเปลี่ยนมาใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปของเด็กแทนได้ ง่ายๆเพียงแค่ตัดเป็นรูพอให้ใส่หางได้ก็เรียบร้อยคะ แบบนี้ไม่ต้องมากังวลประจำเดือนที่จะเปื้อนบ้านด้วยเวลาเค้าจะปัสสาวะก็ทำได้เลยไม่เลอะเทอะด้วย ถ้าเกิดบังเอิญถึงช่วงเวลาที่เค้ายอมให้ผสม เวลาตัวผู้ขึ้นผสมก็ไม่สามารถที่จะผสมได้อีกด้วยนะคะ

แต่ถ้าสุดสวยเกิดโดนผสมขึ้นมาจริงๆแล้วเราไม่ต้องการให้ตั้งท้องนั้นก็มีวิธีการแก้ไขเหมือนกันคะ คือจะต้องพาไปพบสัตวแพทย์ ให้ทำการฉีดฮอร์โมนที่ทำให้มดลูกไม่พร้อมที่จะตั้งท้องได้ ซึ่งในการฉีดยานี้ถ้าจะให้ได้ผลนั้นคือเจ้าของต้องแน่ใจก่อนว่าสุนัขไปโดนผสมมาไม่เกิน 72 ชั่วโมงยาที่ใช้จึงจะได้ผล และหลังจากที่ฉีดยาไปแล้ว เจ้าของต้องไม่ให้สุนัขไปโดนผสมอีก เพราะมีโอกาสที่จะตั้งท้องได้ตามปกติ ดังนั้นหลังจากฉีดยาแล้วก็ควรจะจับแยก หรือใช้วิธีที่หมอแนะนำไปแล้วนะคะ และระยะเวลาที่เราจะแน่ใจว่าสุนัจจะไม่ผสมกันอีกประมาณเกือบ 2 สัปดาห์หลังจากเป็นสัดคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น